แบตฯหมดระหว่างทาง ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้รถอยากเจอแน่ๆ (แต่แอดฯเคยแล้วนะ เพราะลืมว่าถึงระยะเวลาที่สมควรเปลี่ยนแบตฯ) โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่รถเราก็จะใช้งานกันประมาณ 1.5 – 2 ปี โดยเมื่อผ่านระยะเวลาดังกล่าวมาแล้ว อาจต้องวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ได้แล้ว เพราะอายุการใช้งานอาจกำลังเริ่มหมด โดยเราสามารถสังเกตสัญญาณบ่งบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์อ่อนใกล้หมดหรืออาจเสื่อมสภาพได้ด้วยตนเองคร่าวๆ ดังนี้
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ครั้งล่าสุดมาเกิน 18 เดือน
อย่างที่บอกไปข้างต้น หากมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งสุดท้ายมานานประมาณ 1 – 2 ปี อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ก้อนใหม่ เนื่องจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์กำลังใกล้หมด หรือถ้าอยากใช้ต่อก็ต้องเริ่มสังเกตอาการร่วมอื่นๆไว้ด้วย - รถสตาร์ทไม่ติดเป็นบางครั้งหรือสตาร์ทยากกว่าปกติ
หากสตาร์ทรถแล้วมีเสียงดังแชะๆๆๆ หรือสตาร์ทติดแบบอืดๆ ไม่ได้ติดชึ่งขึ้นมาทันที นั่นอาจสงสัยได้ว่าแบตเตอรี่รถของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว ให้ไปตรวจเช็คหรือเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้ - ไฟหน้าไม่สว่างเท่าที่เคย
รถเราขับเป็นประจำย่อมสังเกตได้ว่า เอ๊ะ! ช่วงนี้ขับกลางคืนไฟดูไม่สว่างเหมือนเคย เพราะระบบไฟฟ้าในรถมีกำลังอ่อนลง ซึ่งอาจมีสาเหตุจากแบตเตอรี่นั้นเริ่มเสื่อมแล้วนั่นเอง - ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ
เราสามารถสังเกตได้จาก ไฟในรถ เครื่องเสียง วิทยุ กระจกไฟฟ้า หากรู้สึกว่าเกิดอาการ กะพริบ ติดๆ ดับๆ หรือทำงานได้ช้าลง อาจเป็นสาเหตุมาจากการเสื่อมของแบตเตอรี่รถยนต์
เหล่านี้ก็เป็นข้อสังเกตเบื้องต้นว่าแบตเตอรี่รถของเราอ่อนหรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ นอกจากนี้เราก็สามารถดูได้จากไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัด หรือดูได้จากตัวแบตเตอรี่โดยตรงว่าผิดปกติมีบวม หรือของเหลวไหลออกมารึเปล่า เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถหลีกเลี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในระหว่างเดินทาง เดี๋ยวแบตฯหมดตอนไปเที่ยวจะเสียอารมณ์เปล่าๆ หมั่นตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดแบบแอดฯ